เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่า ลายสักมีกี่ประเภท ที่ทั่วโลกนิยมใช้กันบ่อยๆ เพราะในแต่ละลายต่างก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป บทความ ในวันนี้ เราอยากขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันแบบเจาะลึกกันให้รู้กันไปเลยว่าลายสักที่เขานิยมใช้สักกันนั้นจะมีประเภทแบบไหนที่น่าสนใจหรือน่าจับตามองกันบ้าง ถ้าคุณพร้อมแล้ว เราก็ไปเช็คพร้อมๆ กันเลย
ลายสักเป็นศิลปะอีกหนึ่งแขนงที่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ และมีอิสระไม่มีข้อจำกัดที่ตายตัว โดยลายสักที่ฮิตๆ กันในตอนนี้นั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน แต่ ลายสักมีกี่ประเภท บ้างนั้น เดี๋ยวเราจะมาจำแนกให้อ่านกันแบบย่อยๆ ทั้งหมด 15 ประเภท ด้วยกันดังนี้

1. ลายสักชนเผ่า ( Tribal Tattoo )
มาเริ่มกันเลยกับลายสักรูปแบบแรก หากคุณอยากรู้ว่า ลายสักมีกี่ประเภท ก็ต้องเริ่มจากลายนี้ ที่ถือเป็นลายในยุคเริ่มต้น เพราะมาจากความเชื่อของเผ่าต่างๆ โดยจุดเด่นของลายสักประเภทนี้ คือการวางลายสักให้เข้ากับสรีระร่างกายได้อย่างสมบูรณ์และดูลงตัว

2. ลายสักถมดำ แบบผสมผสาน ( NEO tribal )
เป็นการผสมผสานของศิลปะหลายแขนงเช่นการใช้เทคนิคการสักแบบจุด เทคนิคการสักแบบถมดำ และการวางกราฟิกต่างๆ ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น

3. ลายสักโอสคูล(American traditional tattoo)
ประวัติของลายสักนี้มาจากนักเดินเรือที่ออกทะเลเป็นเวลานาน ลายสักจึงเป็นสิ่งเตือนใจพวกเขาและด้วยวิวัฒนาการทำให้ช่างสักหลายๆคนนำลายสักประเภทนี้มาดัดแปลงให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

4. ลายสักนิวสคูล(New American traditional tattoo)
เป็นลายสักที่พัฒนามาจากลายสักโอสคูล ถูกเปลี่ยนมือจากช่างสักยุคเก่าโดยช่างสักยุคใหม่ๆ ซึ่งงานสักประเภทนี้จะให้สีสันสดใสมากกว่าลายสักโอสคูล รวมไปถึงการใช้ลายเส้นที่มีความสมจริงมากขึ้น

5. ลายสักนีโอเทรดดิชั่นนอล(Neo-traditional tattoo)
ถือเป็นลายสักอีกประเภทที่แตกแยกมาจากลายสักโอสคูลและมีการใช้สีและลายเส้นที่ใกล้เคียงกับลายสักโอสคูลให้ความรู้สึกดั้งเดิมและคลาสสิก แต่มีความพลิ้วไหวมากขึ้น

6. ลายสักญี่ปุ่น หรือ irezumi
ลายสักญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าลายสักยากูซ่าเป็นลายสักที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ตัวละครในลายสักประเภทนี้ล้วนแฝงไว้ด้วยความหมาย

7. ลายสักไทย
มาต่อกับลายสักลำดับที่ 7 กับคำถามที่ว่า ลายสักมีกี่ประเภท จะขาดลายนี้ไปไม่ได้ เพราะเนื่องจากมนต์ขลังของตัวละครต่างๆ ที่นำมาสร้างสรรค์ผลงานทั้งจากวรรณคดีดังเรื่องรามเกียรติ์และความอ่อนช้อยของเส้นสายงานไทย จึงผลักดันให้ลายสักประเภทนี้ดูน่าสนใจและน่าจับตา

8. สักยันต์
ลายสักที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายร้อยปี ส่วนใหญ่เป็นลายสักจากการบริกรรมคาถามาจากครูบาอาจารย์ ใช้อักษรอักขระจากหลายๆประเทศ เช่น พม่า กัมพูชา ลาว หรือแม้แต่ภาษาบาลี

9. ลายสักแนวไบโอ(Bio tattoo)
ลายสักประเภทนี้มักมีองค์ประกอบเป็นเครื่องในต่างๆ ซึ่งความน่าสนใจคือ มันสามารถให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังไซไฟที่กำลังพูดถึงเรื่องเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก

10. ลายสักภาพเหมือน (Realistic tattoo)
จุดเด่นของลายสักประเภทนี้คือความสมจริงที่ช่างสักสามารถทำได้ เพื่อแสดงศักยภาพ การเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบ เพื่อให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากที่สุด

11. ลายสักแนวจุด (Dotwork)
เทคนิคการสักประเภทนี้คือจะใช้การแรเงาด้วยการใช้เข็มเดินเส้นเท่านั้น ทำให้ภาพนั้นดูมิติ โดยลายสักประเภทนี้ส่วนใหญ่นั้นจะอยู่บนลายสัก Mandala

12. ลายสักมานดาล่า (mandala tattoo)
ความดั้งเดิมของลายสักนี้มาจากศิลปะประเทศทิเบตว่าด้วยเรื่องการสร้างสวรรค์ ซึ่งจุดเด่นของลายนี้ จะมีการเขียนแพทเทิร์นขึ้นทุกมุมอย่างมีสมมาตรและเหมือนกันทั้งหมด

13. ลายสักข้อความความหมายดีๆ (Quote tattoo)
ลายสักข้อความเล็กๆที่เต็มไปด้วยความหมายมากมาย แม้ถูกสักไว้เพียงเล็กๆน้อยๆแต่ดูงดงามและมีความหมายอย่างลึกซึ้งซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในทั่วโลก

14. Minimal tattoo
หากถามว่า ลายสักมีกี่ประเภทที่สาวๆ ชื่นชอบ หนึ่งในนั้นก็คือลายสักมินิมอล แบบเล็กๆ ดูน่ารักๆซึ่งเทคนิคการสักลายสักประเภทนี้มีมากมาย และได้มีการพัฒนาแตกแขนงไปให้ดูน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

15. ลายสักแบบสีน้ำ Watercolor tattoo
เป็นลายสักที่ใช้เทคนิคเดียวกับการระบายสีน้ำ ซึ่งจำลองจากเทคนิคการสะบัดสีการใช้สีน้ำจากศิลปิน ทำให้ลายสักที่ดูธรรมดาๆ นั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น
จบกันไปแล้วกับรอยสักทั้ง 15 ประเภท ทีนี้เพื่อนๆ คงจะหายสงสัยกันแล้วนะว่า ลายสักมีกี่ประเภทกันแน่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆพอสมควรลายสักก็เปรียบเหมือนเครื่องประดับประจำตัวเรา ดังนั้นเลือกที่ชอบและเหมาะสมกับสรีระตัวเองจะดีที่สุด
รูปภาพประกอบ : press.ikidane-nippon.com
รูปภาพประกอบ : unlockmen.com
รูปภาพประกอบ : becomeinked.com